วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

- ข้อควรรู้เกี่ยวกับ แบบตสำรอง หรือที่เรีกยกันว่า Power Bank

"ข้อควรรู้เกี่ยวกับ Power Bank"
     วันนี้ Commy มีข้อควรรู้ดีๆ เกี่ยวกับ Power Bank มาฝากสำหรับผู้ใช้ หรือกกำลังมองหา Power Bank สักตัวมาใช้กันคะ
      1. Question ทำไมชาร์ต Power Bank จนเต็มแล้วพอถึงเวลาเอามาใช้กลับชาร์ตได้แปบเดียวก็หมดแล้ว
          Answer เหตุการณ์นี้เกิดการคายประจุจนหมด ซึ่งเกิดจาก Power Bank ราคาถูกๆคุณภาพต่ำ เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นกับคุณหากคุณซื้อ Power Bank แบรนด์ดังๆ หรือที่ใช้เซลแบตคุณภาพสูง อย่างเช่น Sanyo เป็นต้น
      2. Question ทำไมเวลาชาร์ตพร้อมกัน2ช่องกลับชาร์ตนานเท่าๆกันทั้งๆที่มัน 1A กับ 2A
          Answer เพราะมันถูกหาร2ครับแต่เค้าไม่บอกให้เรารู้ ถ้า2ช่องเท่ากับ 1A ชาร์ตพร้อมกัน 2ช่องก็จะถูกหารเหลือช่องละ 0.5A ถ้า2ช่องเท่ากับ 1A กับ 2A จะถูกหารเหลือช่องละ 1A ครับ
      3. Question ทำไมเวลาชาร์ต Power Bank กับ Notebook มันนานกว่าชาร์ตกับไฟบ้าน
          Answer เพราะ Notebook หรือ PC จ่ายไฟน้อยกว่าไฟบ้านเกือบเท่าตัวเลย สมมุติว่าชาร์ตไฟบ้านใช้เวลา 12ชม. ถ้าเป็น Notebook หรือ Pc จะใช้เวลา 22-24ชม. เลยทีเดียว
      4. Question ทำไม Power Bank ถึงเสื่อมไว
          Answer Power Bank จะเสื่อมไวขึ้นถ้าเราไม่ชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ หากเห็นว่าสถานะไฟบนตัว Power Bank เหลือต่ำกว่า 30% แล้ว ควรหยุดใช้งาน ทันทีเพราะถ้าใช้งานจนหมดหรือเหลือไฟอยู่น้อยมากๆจะทำให้เสื่อมได้ และเวลาชาร์ตไม่ควรใช้งานโทรศัพท์มือถือถ้าเราชาร์ตไปด้วยใช้งานไปด้วยจะทำให้เกิดความร้อนมากเพราะถ้าเกิดความร้อนมากๆจะทำให้ Power Bank ของเราเสื่อมได้เร็วครับและที่ สำคัญถ้า Power Bank ที่เราใช้ไม่มีระบบควบคุมกระแสไฟที่ดี หรือ ระบบ Safety ที่ดี เวลาเกิดความร้อนมากๆ จะทำให้เกิดการช็อตหรือระเบิดได้
      5.Question ทำไม Power Bank ถึงชาร์ต มือถือ หรือ แท๊บเล็ทช้า
          Answer เพราะ Power Bank ในปัจจุบันใช้แบตประเภท Li-ion อัตราการจ่ายกระแสไฟของมันไม่สูงมาก (1A) เลยทำให้ชาร์ตได้ช้า ในบางรุ่นจ่ายกระแสได้สูง 2 A ซึ่งมันก็จ่ายได้จริงนั่นแหละ แต่มันก็เป็น Li-ion อยู่ดี เพราะ เกิดจากการนำ Li-ion หลายๆ เซลล์ มาต่อขนานกันทำให้ Li-ion แต่ละเซลล์ มันจะเสิ่อมไม่เท่ากัน แต่ Power Bank ที่ดีต้องมีวงจรควบคุมด้วย พวกรุ่นถูกๆที่ใช้แบต Li-MH , Li-ion ส่วนใหญ่จะไม่มีระบบควบคุม มันปล่อยให้หน้าที่นี้เป้นของแบตไปเลย เพราะมันจ่ายได้ไม่มากอยู่แล้ว ซึ่งมันไม่ควร แบตจะร้อนมาก เพราะใช้กระแสสูงสุดที่มันทำได้ ต่อเนื่อง
      6.Question เราจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าใช้แบตประเภทไหนในการทำ Power Bank
          Answer เพราะมันต้องมีระบบควบคุมการจ่ายกระแสไฟถ้าไม่มีระบบควบคุมการจ่ายกระแสไฟมันจะทำให้ร้อนและทำให้แบตเสื่อม และระเบิดได้ ส่วนมือถือทั่วไปสมัยนี้จะมีวงจรจำกัดกระแสชาร์ตของมันเองอยู่แต่ Power Bank ที่ดีต้องมีวงจรควบคุมด้วย ยิ่งพวกที่ใช้ Li-po ด้วยต้องมีแน่นอน
สอบถามรายละเอียดที่
e-mail: webmaster@commy4u.com
หรือติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของ COMMY ที่ http://www.commy4u.com
http://www.facebook.com/commy4ufanpage


วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

- Review แบตสำรองจิ๋วแต่แจ๋ว



           วันนี้ผมจะพาไปพบกับอุปกรณ์ แบตสำรองพกพา หรือแบตเตอรี่สำรอง ยี่ห้อ Commy ซึ่งเป็นยี่ห้อระดับพรีเมี่ยม พร้อมคุณสมบัติที่ดีเยียมเลยทีเดียว!

** คำอธิบายอยู่ใต้ภาพนะครับ**




Commy Power Bank CM-A28(S) ขนาด 2800 mAh เป็นแบตเตอรี่สำรองเกรดพรีเมีด้วยความจุขนาด 2800 mAh ใช้แบตเตอรี่ประเภท Lithium-Ion Sanyo จากญี่ปุ่นซึ่งได้คุณภาพยิ่งไม่ต้องพูดถึงครับว่ามันดีขนาดไหน


ซึ่งขนาดแบตสำรองรุ่นเล็ก ทาง Commy ก็ยังมีเรื่องการรับประกันค่าเสียหายถึง 100,000 ในกรณีที่่เกิดระเบิด (ว้าววว)



ที่ด้านหลังกล่องก็บอกถึงคุณสมบัติของ Commy Power Bank CM-A28(S) 

คุณสมบัติของเครื่อง

  • ผลิตโดยใช้ Cell Sanyo ของญี่ปุ่น
  • ขนาดความจุ 2800 mAh
  • มีระบบป้องกันการระเบิดของแบตเตอรี่
  • มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ: แบตเตอรี่สำรองจะหยุดชาร์จตัวเองเมื่อแบตถูกชาร์จเต็ม และจะหยุดจ่ายไฟเมื่อแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ที่ทำการชาร์จได้ชารจ์เต็มแล้ว
  • น้ำหนักของเครื่องประมาณ 75 กรับ ซึ่งถือว่าน้ำหนักเบามากเหมาะสำหรับการพกพา
  • มีช่องจ่ายกระแสไฟที่ 1A
  • ใช้เวลาในการชาร์จ ตัวเองประมาณ 3-4 ชั่วโมง



























เปิดกล่อง Commy Power Bank CM-A28(S)  ออกมา จะมีของอยู่ข้างใน 5 ชิ้นได้แก่
  1. Power Bank CM-A28(S) 2800 mAh
  2. ถุงผ้า
  3. คู่มือใช้งาน (มีภาษาไทย)
  4. iPhone 4 Connector
  5. Micro USB Cable


ตัวเครื่อง ผลิตด้วยวัสดุที่เมื่อจับแล้วรู้สึกได้ถึงการประกอบที่แข็งแรงและแน่นหนา ส่วนตัวเครื่องก็เป็นสีขาวดูเรียบหรูมากครับ ที่ด้านบนของตัวเครื่องยังมีไฟ LED 4 ดวง ซึ่งจะบอกถึงสถานะของไฟในเครื่องให้ทราบ พร้อมปุ่มเปิดปิด  และมีช่องสำหรับชารต์ไฟเข้าเครื่อง ซึ่งเป็นแบบ Micro USB ครับ

ที่ตัวเครื่องยังมีแจ้งถึงรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของเครื่อง
  • Capacity 2800 mAh
  • Input DC 5V = 1000 mA
  • Output 1A DC 5V = 1000 mAh




ด้วยความจุไฟฟ้าที่มีขนาด 2800 mAh นั้น ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับสมาร์ทโฟนได้ดีทีเดียว โดยตามทุฤษฏีแล้วสามารถชาร์ตสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปได้ประมาณ 1.5 รอบ และเนื่องจากเครื่องมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาจึงเหมาะที่จะพกพาไปไปยังที่ต่างๆได้ง่าย

สอบถามรายละเอียดที่
e-mail: webmaster@commy4u.com
หรือติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของ COMMY ที่ http://www.commy4u.com
http://www.facebook.com/commy4ufanpage

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

- Review : แบตสำรองรุ่นใหม่ที่สามารถตอบทุกการใช้งานของคุณ Commy Power Bank CM-A84(S)


            หลายๆคนคงเคยเจออาการแบตเตอร์รี่หมด ซึ่งเป็นปัญหาอุปสรรคอย่างหนึ่งของผู้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (EDGE/3G) แบบตลอดเวลาเพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารและอัพเดทต่างๆ จากเพื่อนในโลกโซเชี่ยล รวมไปถึงการรับชมสื่อบันเทิงอื่นๆ อย่างคลิปวีดิโอบน Youtube หรือการดูทีวีออนไลน์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการบั่นทอนกำลังไฟในแบตเตอร์รี่ในอุปกรณ์ของเราอย่างมาก ทำให้หลายคนหันไปพึ่งและใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง Power Bank มาช่วยชาร์ตยามฉุกเฉินหรือตอนที่อยู่นอกสถานที่


             วันนี้ผมก็มีแบตสำรอง (Power Bank) ที่น่าสนใจมารีวิวให้ท่านผู้อ่านได้ชมกันครับ เป็นยี่ห้อ Commy รุ่น CM-A84(S) (ความจุ 8400 mAh) ซึ่ยี่ห้อ Commy เป็นชื่อที่คุ้นหูผู้ใช้ชาวไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยการรับประกันคุณภาพที่เป็นแบตเตอร์รี่จากญี่ปุ่น (Japan Battery) และสามารถจ่ายไฟได้สม่ำเสมอซึ่งจะช่วยถนอมอุปกรณ์ของเราได้เป้นอย่างดี
                  
** หมายเหตุ ** คำอธิบายอยู่ใต้ภาพนะครับ


ที่หน้ากล่องมีรายละเอียดแจ้งเบื้องต้นให้ทราบว่าขนาดความจุของตัวเครื่องอยู่ที่ 8400 mAh

ว้าวว...มีประกันภัยความเสียหายให้สูงสุดถึง 100,000 บาทเลยทีเดียว


ที่ด้านหลังกล่องก็มีอธิบายถึงคุณสมบัติของตัวเครื่อง เรื่องของการรับประกันสินค้า และวิธีการใช้งาน






เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกั
  • แบตสำรอง Commy Power Bank CM-A84(S) 8400 mAh
  • คู่มือการใช้งาน
  • DC Jack Cable
  • iPhone 5 Connector (มีแถมด้วย)
  • iPhone 4 Connector
  • Tab Connector
  • Micro USB Connector
  • USB Adaptor
  • ถุงผ้า



ตัวเครื่อง ผลิตด้วยวัสดุที่เมื่อจับแล้วรู้สึกได้ถึงการประกอบที่แข็งแรงและแน่นหนา ส่วนตัวเครื่องก็เป็นสีขาวดูเรียบหรูมากครับ และสติกเกอร์ที่แสดงให้ทราบถึงเซลล์แบตเตอรี่ที่ใช้ว่าเป็นของซันโย ซึ่งมีระบบป้องกันการระเบิดของตัวเครื่องอยู่


ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีปุ่ม Power สำหรับ เปิด-ปิด การปล่อยกระแสไฟ และใช้สำหรับเปิดปิดไฟฉายด้วยครับ ด้านบนของปุ่มเปิดปิดจะมีหลอด LED เล็กๆ 4 ดวง สำหรับบอกระดับแบตเตอร์รี่ที่คงเหลืออยู่


ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของเครื่อง
  • Capacity 8400 mAh
  • Input DC 5V = 1500 mA
  • Output 1A DC 5V = 1000 mA(MAX)
  • Output 2A DC 5V = 2000 mA(MAX)


ที่ด้านข้างของแบตสำรอง (Power Bank) จะมีพอร์ตสำหรับชาร์ตไฟเข้าตัว แบตสำรอง (Power Bank) ซึ่งเป็น MicroUSB





ที่ด้านบนของแบตสำรอง (Power Bank) จะมีพอร์ต 2  ช่องสำหรับชาร์ตไฟออกไปให้อุปกรณ์อื่นๆ โดยจะมี 1A ซึ่งเหมาะสำหรับการชารต์ มือถือหรือ Smart Phone และ 2 A  ซึ่งเหมาะสำหรับ Tablet หรือ iPad ส่วนมุมขวาบนจะมีหลอดไฟที่ใช้เป็นไฟฉายได้ ในยามที่ต้องการแสงสว่างในที่มืด (เปิดไฟฉายโดยการกดปุ่ม Power ค้างไว้)




ด้วยความจุไฟฟ้าที่มีขนาด 8400 mAh นั้น ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับสมาร์ทโฟนได้ดีทีเดียว โดยตามทุฤษฏีแล้วสามารถชาร์ตสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปได้ประมาณ 3.5-5 รอบ อีกทั้งยังสามาร์ทชาร์ตให้แท็บเล็ตเพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องหรือยามฉุกเฉินได้อีกประมาณ 1 รอบ





สอบถามรายละเอียดที่
e-mail: webmaster@commy4u.com
หรือติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของ COMMY ที่ http://www.commy4u.com
http://www.facebook.com/commy4ufanpage


วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

- ว้าวว ของฟรีก็มีในโลกด้วย กับกิจกรรม แจกฟรีแบตสำรอง

      ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลง่ายๆ กิจกรรม แจกฟรี แบตสำรอง - Power Bank CM-A56(S) กิจกรรมนี้สำหรับสมาชิกแฟนเพจ https://www.facebook.com/commy4ufanpage เท่านั้น
กติกา
1. กด Like และ แชร์ baner กิจกรรม "แจกฟรี แบตสำรอง - Power Bank CM-A56(S)"https://www.facebook.com/commy4ufanpage
2. แค่ตอบคำถามง่ายๆ "Power Bank คืออะไร??" มาที่ http://www.facebook.com/events/
3. คำตอบใครโดนใจมากที่สุด รับเลย แบตสำรอง - Power Bank CM-A56(S)

**รบกวนตอบคำถามในโพส comment ที่ https://www.facebook.com/events/598746770159485/ นะค่ะ เพื่อให้ทางทีมงานตรวจสอบได้ถูกต้องคะ
รางวัล
แบตสำรอง - Power Bank CM-A56(S) จำนวน 1 รางวัล
เงื่อนไขการรับรางวัล
1. ผู้ได้รับรางวัลไม่สามารถนำของรางวัลมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
2. ระยะเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม วันที่ 5 สิงหาคม 2556
3. ขอสงวนสิทธิ์รางวัลให้กับผู้พักอาศัยภายในประเทศไทยเท่านั้น
4. การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สี้นสุด
5. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใดๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ระยะเวลาร่วมกิจกรรม (รอบ Final):  ตั้งแต่วันนี้ - 5 สิงหาคม 2556 คะ
ประกาศรายชื่อผู้โชคดี (รอบ Final):   6 สิงหาคม 2556 คะ
สอบถามรายละเอียดที่
หรือติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของ COMMY ที่ http://www.commy4u.com
http://www.facebook.com/commy4ufanpage

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

- มาดูวิธีการใช้งาน รวมไปถึงเทคนิคในการดูแลรักษาแบตสำรอง (Power Bank)


มาดูวิธีการใช้งาน รวมไปถึงเทคนิคในการดูแลรักษาแบตสำรอง (Power Bank) ให้อยู่กับเราไปนาน ๆ กูรู พี่โจ และน้องออม มีคำตอบให้

รายละเอียดเพิ่มเติม >>

- ทำไมต้องใช้แบตสำรอง แล้วใช้งานอย่างไร? คอมมีพากูรู พี่โจ และน้องออม มาให้คำตอบแล้ว


ทำไมต้องใช้แบตสำรอง แล้วใช้งานอย่างไร?  จะเลือก แบตสำรอง หรือ Power Babk รุ่นไหนดี?  คอมมีพากูรู พี่โจ และน้องออม มาให้คำตอบแล้ว ในช่วง Commy Trick  กับรายการ  Photo Story Cheeze

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

- การติดฟิล์มไม่ใช่เรื่องยาก

การติดฟิล์มไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดคะ เพราะทุกวันนี้เราเคยชินกับการให้ผู้บริการโทรศัพท์ติดให้ จึงต้องประสบปัญหากับฟิล์มกันรอยหลายประเภทที่มีราคาแพงกว่าความเป็นจริง ซึ่งขั้นตอนการติดฟิล์ม สามารถทำได้ง่ายๆด้วยตนเอง ตามนี้เลยจ้า

ขั้นตอนการติดฟิล์มด้วยตนเอง
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม มีแค่เทปใส และ ผ้าเช็ดจอ (อันนี้มีแถมให้ในซองคะ)
ทำความสะอาดหน้าจอให้สะอาด โดยใช้น้ำยาหรือผ้าสำหรับเช็ดหน้าจอ หากมีฝุ่นติดบริเวณหน้าจอให้ใช้ สก็อตเทป กำจัดฝุ่น
เปิดแผ่นฟิล์มด้านที่มีสติ๊กเกอร์หมายเลข 1 ออกทีละน้อย โดยเริ่มจากมุมใดมุมหนึ่ง
เปิดแผ่นฟิล์มด้านที่มีสติ๊กเกอร์หมายเลข 1 ออกทีละน้อย โดยเริ่มจากมุมใดมุมหนึ่ง
เมื่อติดฟิล์มครบทั้งหน้าจอแล้ว ลอกแผ่นฟิล์มที่มีสติ๊กเกอร์หมายเลข 2 ออกมา

** หากพบฝุ่นหรือฟองอากาศอยู่บนหน้าจอ สามารถแก้ไขได้โดยใช้สก็อตเทป ติดกับมุมของแผ่นฟิล์มเพื่อเปิดหน้าจอออกมา จากนั้นนำสก็อตเทปกำจัดฝุ่นออก
สอบถามรายละเอียดที่
e-mail: hrd@commy4u.com
หรือติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของ COMMY ที่ http://www.commy4u.com
http://www.facebook.com/commy4ufanpage

- โทรศัพท์มือถือทำไมถึงระเบิด ??

โทรศัพท์มือถือทำไมถึงระเบิด ??
สาเหตุทำมือถือระเบิด แบตถูก-เครื่องยำ-พฤติกรรมการใช้
      การวิเคราะห์ของวิศวกรเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเกิดจาก 3 ปัจจัยหลักคือ
  1. เป็นเครื่องที่ย้อมแมวขาย โดยการประกอบขึ้นใหม่ที่อุปกรณ์ภายในและรูปลักษณ์ข้างนอกเป็นคนละรุ่น หรือที่เรียกว่าเครื่องยำ
  2. ใช้แบตเตอรี่ราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีระบบการตัดไฟก่อนจะทำให้ระเบิด อย่างของคอมมี่จะมีโอเวอร์ฮีต ซึ่งจะตัดก่อนจะระเบิดเหมือนเครื่องปั๊มน้ำ
  3. เกิดจากพฤติกรรมของผู้ใช้ เช่น ทำตกแล้ววงจรอาจเคลื่อน
แบตเตอรี่มือถือที่ใช้ทุกวันนี้ มีหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น นิกเกิล แคดเมียม (NI-CD) นิกเกิล ไฮดราย (NI-MH) ลิเทียม โพลิเมอร์ (LI-POL) ลีด เอซิด (Lead Acid) และ "ลิเธียม - ไอออน" ซึ่งเป็นชนิดที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุด และมีโอกาสระเบิดสูงสุดเช่นกัน
      ทั้งนี้แบตเตอรี่ลิเธียม - ไออนถูกประดิษฐ์ขึ้นมาแทนที่นิกเกิล ไฮดราย นั้นมีคุณสมบัติพิเศษ คือ น้ำหนักเบาและสะสมพลังงานได้หนาแน่นกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ แต่เนื่องจากวัตถุดิบในการผลิตลิเธียม - ไอออนมีส่วนผสมของ"โคบอลต์ออกไซด์" ทำให้เมื่อตัวแบตเตอรี่โดนความร้อนสูงในระดับหนึ่งจะเกิดปฏิกิริยาเร่งความร้อนเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้แบตเตอรี่ไหม้ หรือ ระเบิดในที่สุด
      แต่ก็ไม่ใช่ว่าสาเหตุที่มือถือระเบิดจะแบตเตอรี่เสียทั้งหมด เพราะบางครั้งก็มาจากความบกพร่องของอุปกรณ์ ชิ้นส่วน รวมทั้งระบบการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การที่ชิ้นส่วนภายในเครื่องมือถือเกิด ไฟฟ้าลัดวงจร หรือ ชิ้นส่วนบางตัวในมือถือบกพร่องมาแล้วตั้งแต่ผลิตออกจากโรงงาน และอาจจะมาจากข้อบกพร่องของระบบชาร์จไฟในมือถือได้เช่นกัน
      นอกจากนี้การชาร์จแบตเตอรี่ให้ถูกวิธีก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถป้องกันมือถือระเบิดได้ โดยขั้นตอนการชาร์จแบตเตอรี่นั้น ไม่ควรชาร์จนานเกิน 24 ชั่วโมง เพราะจะมีผลให้อุณหภูมิของแบตเตอรี่มีความร้อนสูงขึ้น แม้วงจรของแบต และเครื่องโทรศัพท์จะมีการสั่งให้หยุดชาร์จแล้วก็ตาม
      หากแบตเตอรี่ยังเหลืออยู่อีกเยอะก็ไม่ควรชาร์ตใหม่ ควรรอให้แบตหมดเสียก่อนจะดีกว่า และที่สำคัญก็คือแบตเตอรี่ของมือถือแต่ละยี่ห้อนั้นอาจจะผลิตออกมาเหมือน ๆ กัน แต่ก็อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกัน ดังนั้นต้องอ่านและปฏิบัติตามคู่มือดีที่สุด
ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็มองข้ามไปไม่ได้เลยนะคะ เพราะอาจจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้คะ

สอบถามรายละเอียดที่
โทร: 02-246-2200 ต่อ 202
e-mail: webmaster@commy4u.com
หรือติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของ COMMY ที่ http://www.commy4u.com
http://www.facebook.com/commy4ufanpage


วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

- เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับถ่านชาร์จ

"คุณรู้มั้ย?? ถ่านชาร์จที่เราใช้มีกี่ประเภท??"
      ถ่านที่ชาร์จได้ หรือที่เรียกว่า Rechargeable Battey เป็นถ่านที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หลังจากใช้จนหมดแล้ว โดยการประจุไฟเพิ่มให้กับถ่านชาร์จ ถ่านที่ชาร์จได้นี้ด้านข้างตัวถ่านจะปรากฏตัวเลขบอกความจุของถ่านชาร์จเอาไว้ด้วย เช่น 600 mAh , 1,500 mAh. เป็นต้น โดยเครื่องชาร์จ โดยถ่านชาร์จ นี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
      1.ถ่านชาร์จประเภท NiCD (Nickle Cadmium) เป็นถ่านชาร์จประเภทแรกที่ถูกผลิตและนำออกสู่ตลาดนานแล้ว แต่ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังมีความจุไม่มาก
      2.ถ่านชาร์จประเภท NiMH (Nickle Metal Hidried) ถ่านชาร์จประเภทนี้ได้รับความนิยม อย่างสูงใน ซึ่ง ถ่านชาร์จประเภท NiMH (Nickle Metal Hidried Battery) ในปัจจุบัน มีความจุสูงมากกว่าแต่ก่อนเยอะ ความจุสูงสุดเท่าที่พบได้แก่ 2,700 mAh. ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายยี่ห้อ แต่ก็มีบางยี่ห้อได้เริ่มออกถ่านรุ่นใหม่ที่มีความจุมากว่านี้อีก ได้แก่ 2,800 2,900 mAh. โดยที่ขนาด AA/AAA จะมีราคาอยู่ประมาณก้อนละ 80 ถึง 120 บาท ซึ่งถ่นชาร์จประเภท NiMH สามารถแบ่งย่อยได้อีก 2 ประเภท คือ
            a.ถ่านชาร์จ NiMH แบบธรรมดา ในปัจจุบันที่ขายในท้องตลาดมีความจุสูงสุด ประมาณ 2,800 mAh. ซึ่งนับว่าเป็นถ่านชาร์จที่นิยมกันมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิคส์ ในท้องตลาดมีมากมายหลายชนิดขึ้น และบางประเภทยังใช้ไฟมาก และต่อเนื่องอีกด้วย ดังนั้น ผู้บริโภคที่ใช้ถ่านอัลคาไลน์ หลาย ๆ ครั้ง กับเครื่องใช้ไฟฟ้าของตน ก็จะต้องจ่ายค่าถ่านอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งถ่านอัลคาไลน์ จะมีราคาประมาณก้อนละ20 – 34 บาท แล้วแต่ยี่ห้อ หลายคนที่ซื้อถ่านกับเครื่องใช้หลายประเภทในบ้าน ก็ตกลงใจที่จะซื้อถ่านชาร์จมาใช้งานบ้าง ราคาเริ่มต้นอาจแพงกว่า แต่พอคำนึงถึงระยะยาวแล้วก็มีความคุ้มค่ากว่ามากพอสมควร หากเป็นผู้ที่ใช้งานบ่อย ๆ โดยผู้ใช้ถ่านชาร์จมีความจำเป็นต้องซื้อเครื่องชาร์จมาเพื่อสำหรับชาร์จถ่านชาร์จนั้น ๆ ด้วย หลาย ๆ ยี่ห้อในท้องตลาดได้มีการโฆษณาว่าถ่านชาร์จของตนเองนั้น สามารถชาร์จใหม่ได้ประมาณ 1,000 ครั้ง (ภายใต้เงื่อนไขการใช้งาน , อุณหภูมิ , การเก็บรักษา , เครื่องชาร์จ ฯลฯ) ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะไม่สามารถชาร์จได้ถึง 1,000 ครั้ง และอีกอย่างผู้บริโภคก็คงไม่มีเวลามานั่งนับ และนั่งจดกันว่าถ่านก้อนนี้มีการชาร์จไปกี่ครั้งแล้ว หากแต่ว่าคำโฆษณานั้นก็ต้องมาจากพื้นฐานของความเป็นจริงที่พิสูจน์ได้ มิฉะนั้นคงไม่สามารถนำมาโฆษณาได้ เนื่องจากเป็นยี่ห้อดัง ๆ และมีการขายออกไปทั่วโลก ก็คงจะคาดเดาได้ว่าเป็นการทดสอบในห้องปฏิบัติการของผู้ผลิตนั้น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้มาตรฐานระดับโลกทั้งสิ้น แต่ถ้าเราคิดเสียว่า ชาร์จได้แค่ 300 - 400 ครั้ง ก็นับว่าคุ้มแล้วทีเดียว อย่างไรก็ตามเราก็ควรปฏิบัติ หรือเก็บรักษาถ่าน การชาร์จให้ถูกวิธี ฯลฯ เพื่อทำให้เราใช้ถ่านชาร์จให้คุ้มค่ามากที่สุด เพื่อเป็นการประหยัด และลดมลพิษบนโลกด้วย
            b.ถ่านชาร์จ NiMH แบบ Low Self Discharge โดยเป็นถ่านชาร์จ NiMH รุ่นใหม่ที่เพิ่งนำออกวางขายในช่วงปี 2007 โดยมีการเพิ่มคุณสมบัติของถ่านอัลคาไลน์ เข้าไปชดเชยในถ่าน NiMH แบบปกติ ก็คือ อัตราการคายประจุต่ำมาก ๆ แต่ก็มีความจุลดลงกว่า NiMH แบบเดิมประมาณ 20 % แต่ก็สะดวกตรงนี้ไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ กรณีเก็บไว้นาน , หรือใช้บ้าง ไม่ใช้บ้าง เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ไม่ถี่นัก
ข้อแตกต่างระหว่างถ่านชาร์จ NiMH แบบธรรมดา กับ ถ่านชาร์จ NiMH แบบ Low Self Discharge
ถ่าน NiMH แบบธรรมดา เมื่อชาร์จเต็มแล้ว แต่ไม่ใช้งาน ประจุไฟที่เก็บไว้จะค่อยๆน้อยลงไปเรื่อย ๆ แล้วแต่คุณภาพของถ่านและการจัดเก็บของเรา บางก้อน 10-15 วันนำไปใช้ก็ไม่สามารถใช้ได้แล้ว ต้องนำมาชาร์จใหม่ ส่วนถ่านชาร์จ NiMH (LSD) ที่เพิ่งออกมาใหม่นั้นซึ่งมีราคาแพงกว่าถ่าน NiMH ประมาณ 20 % แต่กลับมีความจุสูงสุดน้อยกว่า โดยมีความจุอยู่ที่ประมาณ 2,000 – 2,100 mAh.แล้วแต่ยี่ห้อ โดยมีคุณสมบัติของถ่านอัลคาไลน์เข้าไปอยู่ด้วย ก็คือ มีอัตราการคายประจุ น้อยมาก กล่าวคือ ชาร์จเต็มแล้ว ทิ้งไว้นาน ๆ ไฟก็ยังคงเหลือเท่าเดิม เหลือลดน้อยกว่าเดิมนิดหน่อย เท่าที่โฆษณา ได้แจ้งว่า ทิ้งไว้ 6 เดือน ความจุจะลดลงเพียง 10 % เท่านั้น
สอบถามรายละเอียดที่
โทร: 02-246-2200 ต่อ 202
e-mail: webmaster@commy4u.com
หรือติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของ COMMY ที่ http://www.commy4u.com
http://www.facebook.com/commy4ufanpage


- เคล็ดลับที่ไม่ลับในการเลือกหูฟัง

"เทคนิค & เคล็ดลับในการเลือกซื้อหูฟัง"
     หลายคนเคยสงสัยว่าหรือไม่ว่า หูฟังตัวนั้นต่างกับตัวนี้ยังไง ประเภทนี้กับประเภทนั้นดีแตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกับทุกท่านแล้ว พร้อมแล้วไปอ่านกันเลยครับ
      ประเภทของหูฟังนั้นแบบเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ
      1. แบบแยงหู (In-Ear หรือ Ear-Plug)
      2. แบบแปะหูหรือแนบหู
      3. แบบสวมหัว
      1. แบบแยงหู (In-Ear หรือ Ear-Plug) หูฟังประเภทแยงหูนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการพื้นที่เยอะเก็บง่าย ๆ ไม่เจ็บหูเมื่อฟังนาน ๆ ซึ่งมันสะดวกแก่การพกพาเอามาก ๆ หูฟังประเภทนี้เหมาะกับการนำเอาไปฟังเพลง เพราะเป็นหูฟังที่ให้รายละเอียดเสียงได้ดีมาก เพราะลำโพงของหูฟังประเภทนี้จะอยู่ใกล้กับโซนประสาทที่รับเสียง อีกทั้งยังให้มิติของเสียงดีที่สุดด้วยเมื่อเทียบกับประเภทอื่น ๆ ด้วยความที่เป็นหูฟังแบบแยงหู จึงทำให้ลดเสียงรบกวนภายนอกได้อย่างดี แต่ข้อเสียก็มี การที่แบบหูฟังแบบแยงหูทำให้เกิดการตัดเสียงรบกวนได้ดี จนไม่สามารถจะได้ยินเสียงในสภาพแวดล้อมได้เลย เพราะฉะนั้นควรใส่ให้ถูกสถานการณ์
      2. แบบแปะหูหรือแนบหู เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมน้อยลงไปมาก หูฟังประเภทนี้จะมีข้อดีคือฟังง่ายกว่าแบบแยงหู สามารถเก็บง่าย ลำโพงมีขนาดใหญ่จริง แต่ก็ไม่ได้ให้มิติที่ดีไปกว่าแบบแยงหูเลย เนื่องด้วยการส่วมใส่หูฟังประเภทนี้จะเป็นแค่การแนบใบหูเท่านั้น ทำให้รับเสียงเข้าไปไม่สะดวก เหมือนจะเป็นหูฟังที่เหมาะ แต่ยังไม่ใช่ จุดเด่นคงเป็นเรื่องของการดีไซน์มากกว่าคุณภาพเสียง
      3. แบบสวมหัว ประเภทนี้ถือว่าเป็นประเภทที่ทำออกมาด้วยการคำนึงถึงคุณภาพเสียงเป็นอันดับแรก จากที่บอดี้ของหูฟังนั้นเป็นแบบสวมมีฟองน้ำมากมายรองรับการกระแทกเพราะฉะนั้นหูฟังประเภทนี้ถือว่าเป็นหูฟังที่ใช้แล้วสบายที่สุด ส่วนเรื่องคุณภาพที่ออกมานั้นไม่ต้องห่วงเลย อาจจะตัดเสียงรอบข้างไม่หมดเท่า In-Ear แต่ก็ให้เสียงที่มีมิติมากกว่า In-Ear หลายเท่านั้น เบส กลาง แหลม ทุกอย่างออกมาได้อย่างดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อด้วย ถ้ารุ่นไม่ดีก็จะด้อยกว่า In-Ear แต่ถ้ารุ่นที่ดี ๆ หน่อย ก็ถือว่าเป็นหูฟังที่เหมาะที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หูฟังประเภทนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
      วิธีการเลือกซื้อ
      แน่นอนว่าคุณควรมองงบในกระเป๋าคุณรวมกับประโยชน์ที่จะนำไปใช้ ถ้าคุณไม่ใช่ดีเจ ไม่ใช่นักดนตรีที่จะต้องทำเพลง ตัดต่อเพลง ก็คงไม่ทุ่มเงินมากมายซื้อหูฟังดี ๆ ใช่ไหมละครับ ถ้าคุณแค่ต้องการหูฟังมาฟังเพลงธรรมดา ๆ ดูหนังทั่ว ๆ ไป มันก็เลือกได้ งบประมาณ 1,000 บาท – 2,000 บาท ก็ได้หูฟังคุณภาพที่ดีแล้ว ส่วนประเภทหูฟังที่จะใช้นั้น ก็แล้วแต่คนชอบ แต่แนะนำว่า อย่าเพิ่งไปซื้อเลยทันที อย่ามองรูปลักษณ์ภายนอกเป็นสำคัญ ให้ทดลองฟังดีกว่า ฟังเยอะ ๆ ชอบเสียงแบบไหน เอาแบบนั้น "และที่สำคัญคุณห้ามมองสเปคของหูฟังนั้น ๆ เด็ดขาด เพราะมันจะไม่บอกคุณเลยในแง่ของคุณภาพ เพราะสเปคเป็นแค่ประสิทธิภาพเท่านั้น" อีกทั้งหูฟังยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการให้เสียงเท่านั้น คุณควรมองมาที่เครื่องเล่นด้วย
      การทดสอบเสียงให้ดูดังนี้
      - การแยกซ้าย – ขวาของเสียง
      - เสียงครบหรือไม่ เครื่องดนตรีในเพลงนั้น ๆ ได้ยินหมดรึป่าว
      - เสียง ทุ้ม กลาง แหลม ชอบไหม
      - เอาเพลงที่คุณฟังอยู่ทุกวันมาฟังด้วย
      การนำไปใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Burn in)
      การเบิร์นคือการทำให้หูฟังได้ออกแรงทำงานไปพลาง ๆ ก่อนที่จะทดสอบกันแบบจริง ๆ จัง ๆ หรือพูดง่าย ๆ การเบิร์นคือการวอร์มให้หูฟังส่งประสิทธิภาพสูงสุดออกมาให้เห็นก่อน
      การเบิร์นทำได้ดังนี้
      เปิดด้วยเพลงที่มีย่านเสียงครบ ซึ่งมักจะเจอในเพลงคลาสสิค ความจริงเพลงอะไรก็ได้ ขอให้บันทึกดีๆๆ หลีกเลี่ยงเพลงผี 128kbps เปิดทิ้งไว้ โดยกะระยะซัก 200 ชั่วโมง แต่ปิดพักได้เป็นระยะ อย่าเปิด EQ ในการเบิร์น อย่าเปิดดังกว่าที่ฟังปกติ
      จบแล้วนะครับ กับบทความเคล็ดลับการเลือกซื้อหูฟังหวังว่าจะถูกใจใคร หลาย ๆ ท่านที่กำลังจะหาซื้อหูฟังอยู่นะครับ ย้ำเตือนกันอีกรอบ แนะนำว่าการเลือกซื้อนั้นให้คำนึงถึงงบในกระเป๋ากับประโยชน์การใช้สอยเป็นหลักแล้วกันครับ และท่านจะได้หูฟังที่คุ้มและดีที่สุดในงบประมาณที่ท่านมีครับ
สอบถามรายละเอียดที่
โทร: 02-246-2200 ต่อ 202
e-mail: webmaster@commy4u.com
หรือติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของ COMMY ที่ http://www.commy4u.com
http://www.facebook.com/commy4ufanpage


วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

- Gadget Review :แบตสำรอง - Power bank CM-A112(SN)

คุณสมบัติ
  • ผลิตโดยใช้ เซลล์แบตเตอรี่ SANYOจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีระบบ Safety Valve ที่ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในการป้องกันการระเบิดของแบตเตอรี่
  • แบตเตอรี่ในตัวความจุสูง 11200 mAh
  • สามารถชาร์จอุปกรณ์อิเล็คโทรนิกส์ได้พร้อมกัน 2 เครื่อง (Dual USB Port)
  • มีไฟ LED บอกสถานะระดับพลังงาน
  • แรงดันไฟฟ้า 5.0 V
  • อัตรากระแสไฟไหลออก 1A และ 2.1A
  • Weight 231g
  • Input DC 5V = 1000 mA
  • Output 1A DC = 1000 mA(MAX)
    2A DC = 2000 mA(MAX)
  • 70x114x21.5 mm
  • GB/T 18287-2000
สอบถามรายละเอียดที่
หรือติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของ COMMY ที่ http://www.commy4u.com
http://www.facebook.com/commy4ufanpage

- จะคำนวนการใช้งาน แบตสำรอง Power Bank ได้อย่างไร

การคำนวณจำนวนครั้งในการใช้งาน Power Bank
หลักการทำงานของ Power Bank เป็นการจ่ายพลังงานไปยังแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ ไม่ได้หมายถึงการชาร์โทรศัพท์โดยตรงเหมือนการชาร์จจาก Adapter ที่เสียงไฟบ้านนะคะ ซึ่งมันจะมีการสูงเสียพลังงานระหว่างการจ่ายพลังงานไปยังอุปการ์ต่างๆ ประมาณ 30- 35% หมายความว่าค่าตัวเลข mAh (มิลลิแอมป์) ที่อยู่บนตัว Power Bank เราจะสามารถใช้งานได้จริงประมาณ 65-70% นะคะ

ยกตัวอย่างเช่น  Power Bank COMMY 11200 mAh พลังที่เรานำไปใช้ได้คือ (11200x70)/100=7840 ถ้านำไปใช้กับ iPhone 4s ที่มีแบต 1432 mAh จะได้ 7840/1432=5.47 หรือไม่เกิน 5 รอบครึ่ง

ซึ่งการคำนวณนี้ เป็นกรณีที่ iPhone 4S ปิดการทำงานทุกอย่างของโปรแกรมและ Serbice ต่างๆ เพราะถ้ามีโปรแกรมอะไรที่เปิดค้างอยู่/ทำงานอยู่เบื้องหลัง หรือเปิด Serbice อื่นค้างไว้ เช่น GPS, B, 3G. EDGE, Wi-Fi ก็จะถูกใช้พลังงานไปเรื่อยๆ หรือถ้าปล่อย Power Bank ทิ้งไว้นานๆ หรือหลายวัน มันจะคลายประจุไปบ้าง ซึ่งพลังงานก็จะเหลือให้ใช้น้อยลง

คำแนะนำในการใช้งาน Power Bank
สิ่งที่ขอแนะนำคือ ไม่ควารปล่อยให้ Power Bank ใช้งานไปจนพลังงานในตัวมันหมด เพราะแบตเตอรี่เป็นแบบ เหมือนกับที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือ ถ้าพลังงานมันหมดเกลี้ยง พอเราชาร์จไฟเข้าไป จะถูกกระตุ้นมากขึ้นและมีความร้อนมากกว่าปกติ อายุการใช้งานจะสั้นลง ดังนั้น ไม่ว่าพลังงานมันจะเหลือเท่าไร เราก็สามารถชาร์จไฟให้มันได้ทันที ยิ่งพลังงานเหลือมากก็แทบจะไม่ถูกกระตุ้น ความร้อนก็เกิดขึ้นน้อยคะ

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

- Safety valve คืออะไร ?? ช่วยชีวิตเราได้อย่างไร ??

Safety valve คืออะไร ??
      Safety valve คือ อุปกรณ์ที่มีหน้าที่ป้องกันแรงดันในระบบ โดยวาล์วจะเปิดเพื่อระบายแรงดันส่วนที่เกินกว่าที่กำหนดออกเพื่อป้องกันอุปกรณ์ หรือ ผลิตภัณฑ์เสียหาย โดยส่วนใหญ่จะตั้งแรงดันสำหรับระบายที่ maximum allowable working pressure (MAWP) หรือ แรงดันที่ระบบสามารถรับได้
      การทำงานหน้าวาล์วจะถูกออกแบบให้เปิดเพื่อระบายแรงดันส่วนเกินและปิดเมื่อแรงดันลดลงต่ำกว่าที่กำหนด โดยมีลักษณะการเปิดอย่างรวดเร็ว (pop action) หรือค่อย ๆ เปิดตามสัดส่วนแรงดันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบ
ขั้นตอนการทำงานของระบบ Safety Valve
      เมื่อแรงดันภายในอุปกรณ์เพิ่มขึ้นผิดปกติแต่ยังอยู่ในระดับน้อยกว่าที่กำหนด อุปกรณ์จะทำการดึงคัตเอาท์ที่อยู่ในอุปกรณ์ลง และเมื่ออุปกรณ์เข้าสู่สภาพปกติ ตัวคัตเอาท์ที่อยู่ในอุปกรณ์จะกลับมาทำงานปกติ แต่ถ้าในกรณีที่แรงดันภายในอุปกรณ์เพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่กำหนด (set pressure) ระบบจะทำการระบายแรงดันดังกล่าวออกสู่ภายนอก ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ที่ใช้ระบบ Safety Valve ไม่เกิดการระเบิด
ซึ่งทางบริษัทคอมมี่ได้นำระบบดังกล่าวมาติดตั้งภายในอุปกรณ์ของบริษัท ที่ขายให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น Battery Commy Sure หรือ Power Bank รุ่นต่างๆ เช่น Power Bank CM-A521(S), CM-A112(SN), CM-A26(S) เป็นต้น
http://news.siamphone.com/news-01664.html
สอบถามรายละเอียดที่
โทร: 02-246-2200 ต่อ 202
e-mail: webmaster@commy4u.com
หรือติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของ COMMY ที่ http://www.commy4u.com
http://www.facebook.com/commy4ufanpage


- ทำยังไงนะถึงจะทำให้ Power Bank ใช้งานได้ยาวนานขึ้น


"เคล็ดไม่ลับ! วิธีการรักษา Power Bank ให้มีอายุยืน"
     วันนี้เรามาดูวิธีการทำให้ Power Bank สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่เสื่อมเร็วหรือพังไวกว่ากำหนด
      1. เนื่องจากปัจจุบันแบตเตอรี่ภายใน Power Bank เป็น Li-on จึงไม่ควรใช้ให้แบตเตอรี่หมดแล้วค่อยชาร์จ เพราะว่า การที่มีแรงดันเหลือน้อย จะทำให้สารในแบตเตอรี่ที่มีฤทธิ์เป็นกรดทำงาน ซึ่งจะทำให้แบตเตอรรี่มีอายุการใช้งานที่สั้นลง ควรให้เหลือไม่น้อยกว่า 20% (Power Bank ไฟแสดงสถานะ 1 -2 ดวง) ก็สามารถเริ่มนำไปรีชาร์ตไฟบ้านได้แล้วครับ
      2. หากเหลือเยอะ แล้วไปชาร์จแบตเสื่อมไหม สามารถชาร์จได้เลยครับ แต่หากเต็มแล้วควรถอดออก เพราะใน อุปกรณ์ทั่วๆ ไป ไม่มีรุ่นไหนที่ตัดไฟเวลาแบตเต็มจริงๆ ซึ่งระบบส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เพียงแค่หยุดชาร์จ พอเวลาผ่านไปแบตก็จะถูกใช้ไปเองเพราะเมื่อเรายังเปิดเครื่องอยู่ตลอดเวลาก็จะเหมือนกับว่าเราใช้งานเครื่องเราอยู่ ซึ่งจะทำให้เหมือนกับเป็นการชาร์จอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น
      3. ไม่ควรเสียชาร์จไฟไป เล่นไปด้วย เพราะการคุยไป ชาร์จไป จะเกิดความร้อนสูงกว่าการคุยปกติอย่างเดียว ความร้อนก็เป็นเหตุให้แบตเสื่อมได้โดยง่าย
      4.ใช้ที่ชาร์จให้เหมาะสมหรือใช้ตัวที่มีกำลังโวลท์/แอมป์ที่เหมาะสมกับ Power Bank (ใช้ตัวที่แถมมากับเครื่องนั่นแหละ อย่าไปซื้อของก๊อบของปลอมมาใช้ ถ้าไม่จำเป็นจริง)
      5. ไม่ควรเก็บ แบตสำรองไว้ในที่ร้อน เช่น การเก็บไว้ในรถยนต์ที่จอดตากแดด เพราะความร้อนจะทำให้แบตเสื่อมเร็วครับซึ่งทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น
      6. ถ้าจำเป็นจะต้องเก็บแบตไว้เป็นเวลานาน โดยไม่ได้ใช้งาน ให้ชาร์ตไฟไว้ที่ประมาณ 40% ของความจุ แล้วเก็บไว้ในที่เย็นๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้
      7. ไม่ควรทำแบตตก หรือ กระทบกระแทกแรงๆ นะครับ เพราะภายในอาจเสียหาย และอาจมีผลทำให้สารประกอบภายในรั่วไหล ทำให้ไม่ปลอดภัยกับการใช้งาน
สอบถามรายละเอียดที่
โทร: 02-246-2200 ต่อ 202
e-mail: webmaster@commy4u.com
หรือติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของ COMMY ที่ http://www.commy4u.com
http://www.facebook.com/commy4ufanpage


วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

- ทำไมแบตโทรศัพท์ถึงหมดเร็วขนาดนี้ ??

อัยยะ!! ทำไมแบตฯ หมดเร็วขนาดนี้
  
หลายๆคนที่ใช้ Smartphone , Tablet คงเคยประสบกับปัญหาแบตเตอรี่หมดไว หรือยังใช้ไม่ครบวัน แต่แบตก็หมดซะก่อน วันนี้เราได้นำสาเหตุหลายๆประการที่ทำให้แบตฯ หมดเร็ว และวิธีช่วยประหยัดแบตฯใน Smartphone, Tablet ของคุณ
      1. การเปิดสัญญาณ Bluetooth ตลอดเวลา ซึ่งถ้าเราไม่ได้ใช้งานควรจะปิด Bluetooth ทุกครั้งที่ใช้งานเรียบร้อยแล้ว
      2. การเปิดสัญญาณ GPS เพื่อระบุพิกัด ก็เป็นอีกสาเหตุ ที่ทำให้แบตฯ หมดเร็วครับ ซึ่งถ้าเราเปิดเฉพาะเวลาที่เราจะใช้งานจะสามารถช่วยประหยัดพลังงานใน แบตฯของคุณได้
      3. เปิด Wifi ไว้ตลอดเวลา หลายคนมักจะเปิด Wifi ไว้ตลอดเวลา เนื่องจากไม่ต้องการที่จะคอยเปิดปิดสัญญาณ Wifi แต่คุณรู้หรือไม่การที่คุณเปิดไว้ตลอดเวลาเครื่องจะคอย Scan สัญญาณ Wifi ตลอดเวลาด้วย จึงทำให้เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ แบตฯ หมดเร็ว
      4. ที่สำคัญสุดก็คือ 3G เมื่อก่อน 3G อาจมีครอบคลุมไม่มาก เลยทำให้การรับสัญญาณส่วนใหญ่เป็นแค่ GPRS หรือ Edge เท่านั้น ซึ่งมันสูบแบตไม่บ้าคลั่งเหมือน 3G ซึ่งเดียวนี้ สัญญาณ 3G คลอบคลุมเกือบทั่ว กทม แล้ว แต่ 3G ที่ว่าสูบแบตแบบบ้าคลั่ง ยังเทียบไม่ได้กับ 4G LTE ที่ซดแบตเหมือยดื่มน้ำเลยทีเดียว
      5. หลายคนมักจะใช้ Wallpaper ที่เคลื่อนไหวได้บนหน้าจอ ลองเปลี่ยนมาใช้ Wallpaper ที่เป็นรูปนิ่ง จะช่วยประหยัด แบตฯได้มากเลยทีเดียว เนื่องจาก Wallpaper ที่เคลื่อนไหว จะเหมือนกับเครื่องต้องทำงานตลอดเวลา
      6. ลดความสว่างของหน้าจอ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าหน้าจอแสดงผลของมือถือเป็นผู้บริโภคพลังแบตเตอรี่ตัวพ่อเหมือนกันดังนั้นการปรับแสงสว่างของหน้าจอจะช่วยให้สามารถประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้เหมือนกัน
      7. ยกเลิก Widget ที่ไม่ค่อยใช้งานออกจากหน้าโฮม หลายคนชื่นชอบการใส่ Widget บนหน้า homecreen ของมือถือ Android โดยหารู้ไหมว่า Widget เหล่านี้มักจะมีการดึงข้อมูลจากเว็บซึ่งนั่นหมายความว่ามือถือของคุณจะต้องมีการดึงข้อมูลเข้ามาแสดงผลในส่วนของการทำงานด้านหลัง (background) ตลอดเวลา คล้ายๆ กับแอพฯพวกสตรีมมิ่ง แต่อาจจะกินไฟน้อยกว่าแต่ถ้าเกิดคุณติด Widget บนหน้าโฮมไว้หลายๆ ตัว แน่นอนว่าแบตเตอรี่ของคุณจะถูกผลาญโดย Widget เหล่านี้ ข้อแนะนำคือ Widget ใดไม่ค่อยได้ใช้ ก็เอาออกไปดีกว่า เปลืองแบตฯเปล่าๆ
      8. ทำการตั้งเวลาดับที่หน้าจอ ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยในการประหยัด แบตฯ
      9. ใช้โปรแกรม Task Manager โปรแกรม Task Manager จะทำให้สามารถดูได้ว่ามีแอพอะไรบ้างที่กำลังอยู่ขณะนี้และเราไม่ได้ใช้งาน เพื่อที่จะได้ปิดแอพที่ไม่ได้ใช้เพื่อเป็นการประหยัดพลังของเครื่อง
      10. ถ้าจำเป็นที่จะต้องเปิดแอพต่างๆไว้ตลอดเวลา เราสามารถหาซื้อ แบตฯ สำรอง (Power Bank) เพื่อใช้ในกรณีที่แบตฯ หมดระหว่างวันก็ได้นะครับ
สอบถามรายละเอียดที่
โทร: 02-246-2200 ต่อ 202
e-mail: webmaster@commy4u.com
หรือติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของ COMMY ที่ http://www.commy4u.com
http://www.facebook.com/commy4ufanpage


- ทำไมชาร์จไว้แล้ว แต่ไม่ได้เอามาใช้ ไฟหายไปไหน?? แล้วเราจะรักษาแบตสำรองให้อยู่กับเรานานๆได้อย่างไร

ทำไมชาร์จไว้แล้ว แต่ไม่ได้เอามาใช้ ไฟหายไปไหน??
แบตเตอรี่ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องเป็น Powerbank ถ้าเราเก็บนานๆ ไฟจะหายไปเองได้ ซึ่งเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว
วิธีการรักษาแบตเตอร์รี่สำรอง (Power Bank)
   • ควรนำ Powerbank ออกมาชาร์จไฟให้เต็มทุก ๆ 3-6 เดือน หากไม่ได้ใช้งานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
   • ควรเก็บ Powerbank ไว้ในที่แห้งไม่เปียกชื้น
   • อย่าทำ Powerbank หล่น
   • อย่าให้ Powerbank ถูกความร้อน
สมารถรับทราบข้อมูลดีๆได้จาก www.commy4u.com